ผู้เขียน: admin
เอกสารจัดซื้อจัดจ้าง – ครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์
รัฐบาลระดมเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออก มีนบุรี-ลาดกระบัง

าด 1 สัปดาห์ น้ำลดลง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) พร้อมด้วย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม เดินทางไปตรวจเขื่อนดินที่ทรุดที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ภายในนิคมฯ โดยกล่าวว่า ขณะนี้มีปัญหาฝนตกหนักหลายจุด ทำให้พื้นที่ลุ่มตอนล่างมีน้ำท่วมบาง พื้นที่ รัฐบาลต้องเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลเร็วที่สุด โดยเตรียมระดมเครื่องสูบขนาดใหญ่ 60 เครื่อง ระบายน้ำจากพื้นที่มีนบุรี ลาดกระบัง ซึ่งได้เริ่มท่วมพื้นที่ชาวบ้าน เพื่อให้น้ำลดลงวันละ 5 เซนติเมตร คาดว่าจะใช้เวลา 1 สัปดาห์ ปริมาณน้ำบริเวณดังกล่าวจะลดลง
ทั้งนี้ที่กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องกันน้ำจากทางตอนเหนือ และกบินทร์บุรี ไม่ให้ไหลเข้ามาซ้ำเติม และ ตนยืนยันว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมในการรับมือปัญหาน้ำท่วม เต็มที่แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ซึ่งต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว
สำหรับน้ำที่ทะลักจากคลองบึงบัว เข้าไปในคลองลำแตงโม ซึ่งเป็นคลองในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จนไหลเข้าท่วมในนิคมนั้น เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมสูบน้ำตลอดทั้งคืน ทำให้ช่วงเช้าปริมาณน้ำภายในนิคมแห้งสนิท ประชาชนจึงสามารถสัญจรได้ปกติ
ด้านนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวยอมรับว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการแก้ไข ส่วนการสร้างคันดินคอนกรีต ขณะนี้ รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณแล้ว ซึ่งจะเริ่มการสร้างคันดินได้ภายในเดือน พ.ย. และจะแล้วเสร็จเดือน พ.ค. ปีหน้า
ที่มา : Mthai News
ผบ.ตร.เข้ารายงานตัว เร่งแก้ปัญหายาเสพติด-ไฟใต้

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเข้าพบและรายงานตัวต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่าได้รับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรี โดยกำชับเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด ดูแลความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเป็นปัญหาสำคัญระดับชาติ โดยจะประชุมประเมินสถานการณ์ทุกวัน
ส่วนการแบ่งงานอื่นได้พิจารณาตามความรู้ความสามารถ ความถนัด และลำดับอาวุโส อาทิ งานป้องกันและปราบปราม มอบหมายให้พลตำรวจเอกปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนพลตำรวจเอกวัชรพล ประสานราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ศึกษาอบรม พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านกฏหมาย พลตำรวจเอกสุวัจน์ จันทร์อิทธิกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานด้านบริหาร
นอกจากนี้ยังมีนโยบายการขับเคลื่อนพัฒนาขีดความสามารถตำรวจไทยเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน ตลอดจนดูแลป้องกันปัญหาอาชญากรรม ปรับปรุงระบบการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจ สวัสดิการข้าราชการตำรวจ สำหรับการดูแลการชุมนุมทางการเมือง
ที่มา : Mthai News
สลด ชาวมุสลิมบังกลาเทศ ฮือเผาวัดพุทธ ลือหมิ่นศาสนา

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์ความรุนแรงในเมืองรามุ ทาง ตอนใต้ของบังกลาเทศ โดยรายงานระบุว่า ชาวมุสลิมบังกลาเทศ กว่า 25,000 คน บุกเผาทำลายวัดพุทธเก่าแก่ อย่างน้อย 5 แห่ง และบ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน
โดยความรุนแรงดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันเสาร์ และลุกลามมาจนถึงเช้าวันอาทิจตย์ ซึ่งสาเหตุเกิดจากมีกระแสข่าวลือว่าชายชาวพุทธคนหนึ่ง โพสต์รูปภาพเผาพระคัมภีร์กุรอ่านในเฟซบุ๊ก และความรุนแรงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสโกรธแค้นภาพยนตร์หมิ่นศาสดามุฮัมหมัด ของผู้สร้างชาวอเมริกัน บวกกับความไม่พอใจเหตุปะทะรุนแรงระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมโรฮิงยาในพม่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาด้วย
ล่าสุด ทางการได้ส่งกำลังทหารเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อย และห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ผู้นับถือศาสนาพุทธในบังกลาเทศมีไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากร 153 ล้านคน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้ชายแดนติดพม่า



ที่มา : Mthai News
ธิดา สั่งห้ามเสื้อแดงไปกองปราบ 29 ต.ค.

นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ออกแถลงการณ์ที่ ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว สั่งห้ามกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปชุมนุม ที่กองปราบปรามในวันที่ 29 ต.ค.นี้ เพื่อเป็นการป้องกันการปะทะ และกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มพันธมิตร ที่จะเดินทางไปให้กำลังใจหญิงนิรนามที่จะเดินทางไปรับทราบข้อความหา ในคดีหมิ่นประมาทฯ หลังบุกด่านางดารุณี กฤตบัญญาลัย แกนนำคนเสื้อแดงกลางห้างดังสยามพารากอน
ซึ่งนางธิดาเผยว่า เข้าใจว่ากลุ่มมวลชนเสื้อเเดงต้องการให้กำลังใจนางดารณีเช่นกัน เพราะนางดารณีเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่ไม่ต้องการให้มวลชนเกิดการปะทะและเข้าสู่ความขัดแย้งอีก จึงได้ออกมาสั่งห้ามดังกล่าว ขณะเดียวกันก็อยากเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ให้ออกมารับผิดชอบถึงกรณีที่พิธีกรสถานีโทรทัศน์ช่องบลูสกาย ปลุกระดมคนและยุแยงจนทำให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างคนเสื้อแดง และกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 25ก.ย. ที่ผ่านมาด้วย
ที่มา : Mthai News
สยอง! คนร้ายขโมยรถ ฆ่าตัวตายออกอากาศ

ขณะที่ประชาชนสวดยับ ฟ็อกซ์นิวส์ ที่ไม่ตัดภาพออก ด้านผู้ประกาศอ้างเป็นเหตุขัดข้องทางเทคนิค แก้ไขแล้วแต่ไม่ทันเวลา
สถานีโทรทัศน์ ฟ็อกซ์ ของสหรัฐ ได้เผยแพร่ภาพสุดสยอง นาทีชีวิตของผู้ต้องสงสัยโจรกรรมรถยนต์รายหนึ่ง ที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตายหนีความผิด ภายหลังเขาได้หนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไปไม่รอด ก่อนจะจบชีวิตลงที่บริเวณทางหลวงใกล้กับเมืองซาโลเม ทางตะวันตกของเทองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ชมนับล้านคนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เมื่อภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ ถูกโจมตีอย่างหนักจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่ไม่ได้ตัดภาพดังกล่าวออก ว่าการกระทำที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรกับการถ่ายทอดสดการฆ่าตัวตายออกอากาศ
ด้านนายเชพเพิร์ด สมิธ ผู้ประกาศข่าวของฟ็อกซ์ที่ได้ทำหน้าที่ในช่วงที่เกิดเหตุ ก็ได้ออกมากล่าวขอโทษประชาชนทั่วประเทศ และอ้างว่า ภาพที่เผยแพร่ออกไปโดยไม่ได้เจตนานั้น เกิดจากความขัดข้องของการส่งสัญญาณภาพจากจุดเกิดเหตุราว 5 วินาที อย่างไรก็ตาม ทางสถานีขอยืนยันว่า พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อตัดภาพเหตุการณ์ช่วงนั้นออกแล้วแต่กลับไม่ทันเวลา
ที่มา : Mthai News
ปชป. เดินหน้ายื่นศาล รธน. ตรวจสอบคุณสมบัติ ยงยุทธ

รัฐบาลวอนยุติตรวจสอบ ยงยุทธ สร้างแรงกดดันให้ศาลรัฐธรรมนูญ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุในวันพรุ่งนี้ (1ต.ค.55) จะมีการประชุมกำหนดแนวทางที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ยืนยันคุณสมบัติของนายยงยุทธยังคงจำเป็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เช่นเดียวกับกระบวนการดำเนินคดีอาญา ยังต้องเดินหน้าต่อไปเช่นกัน
ทั้งนี้แม้การลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองของ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะถือว่าสิ้นสุดในกระบวนการชี้ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี แต่กรณีสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ยังต้องเดินหน้าตรวจสอบให้เกิดความถูกต้องตาม รัฐธรรมนูญ
ขณะที่พรรคเพื่อไทย โดยนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ แถลงเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์ยุติการเคลื่อนไหวกรณีการตรวจสอบคุณสมบัตินาย ยงยุทธ เพราะอาจกลายเป็นแรงกดดันให้กับศาลรัฐธรรมนูญหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ พร้อมย้ำให้รอผลการตรวจสอบของ กกต. ที่มีการยื่นไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ยังยืนยันว่า ขณะนี้ไม่เหตุผลความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาปรับ ครม. และปฏิเสธแรงกดดันจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและอดีตนักการเมืองกลุ่มร้อยสิบเอ็ด(บ้านเลขที่ 111)ให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจปรับ ครม.
ที่มา : Mthai News
ปชป. โชว์หนังสือ ระบขุดลอกท่อแล้ว

อัด รัฐบาลเล่นเกมการเมืองโดยความผิดให้กทม.
นายณัฐฏ บรรทัดฐาน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่า? ตรวจพบถุงทรายและก้อนหินในท่อระบายน้ำโดยอ้างว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดท่ออุด ตันและน้ำท่วมใน กทม.นั้น ตนยังมีหนังสือยืนยันจากกรมราชทัณฑ์ ในการดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำระยะทาง 3,900 กว่ากิโลเมตร เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ถึงปลัดกรุงเทพมหานครว่าดำเนินการเสร็จสิ้น โดยมีตัวแทนชุมชนตรวจสอบและเซ็นรับมอบงานด้วย ก่อนเกิดเหตุการพบถุงทรายและก้อนกินดังกล่าว ดังนั้นหากมีข้อสงสัยว่ามีสิ่งอุดตันลงไปในท่อระบายน้ำต่างๆจากความบกพร่อง จากการทำงาน สามารถตรวจสอบการเซ็นรับงานจาก23 พื้นที่ได้
ทั้งนี้ นายณัฐฏกล่าวว่า ข่าวดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลเพื่อไทย (พท.)และหน่วยราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งใจเล่นเกมการเมือง การทำเรื่องน้ำท่วมให้เป็นเรื่องการเมือง เป็นการต้องการแก้ปัญหาที่เคยบอกว่าน้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพ จึงต้องการโยนความผิดให้กทม.
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่มีทิฐิจนเกินไป อยากให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เชิญม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม. มาหารือถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในกทม. เหมือนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาหารือเรื่องการแก้ปัญหา3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ขอบคุณภาพเอกสารจาก http://www.facebook.com/Teerachon.BMA
พบไก่ประหลาด เกิดมามี 4 ขา ที่ประเทศศรีลังกา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ว่า ที่ฟาร์มไก่แห่งหนึ่งในเมืองดัมบูลา ประเทศศรีลังกา พบไก่ประหลาดที่เกิดมามี 4ขา สร้างความงุนงงให้กับชาวบ้านที่มามุงดู แต่มันก็มีสุขภาพที่แข็งแรง โดยมันมีอายุ 4 เดือน ซึ่งเจ้าของก็บอกว่าจะเลี้ยงดูมันไว้ไม่จับมาทำเป็นอาหาแต่อย่างใด

ที่มา : Mthai News
สภาพอากาศแปรปรวน โลกร้อนขึ้นจริง หรือแค่เปลี่ยนแปลงตามวัฎจักร

ความแปรปรวน เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สร้างปัญหาไปทั่วโลก เห็นได้จากภัยธรรมชาติ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา? ประเทศไทยประสบกับภัยธรรมชาติทั้งภัยแล้ง อากาศที่ร้อน เกิดพายุ ดินถล่ม? ภัยน้ำท่วม และน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งประชาชนต้องติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ ชาวกทม.ต่างก็บ่นกันระงมกับปัญหาฝนตก น้ำท่วม รถติด จนการจราจรเป็นอัมพาตเดินทางแสนลำบาก โดยร่องมรสุมยังคงมีกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องถึงวัน ที่ 2 ตุลาคม 2555? ที่มีฝนตกหนักใน กทม.มากกว่าเดิมถึง 10 เท่า จนไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน
ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศยังส่งผลต่อ บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก? มีการพยากรณ์จากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ว่า ช่วงนี้ (ปลายเดือน ก.ย. นี้ไปจนถึงต้นเดือน ต.ค.) หลายพื้นที่จะเกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ? เกิดฝนตกชุกกว่าปกติ โดยปรากฏการณ์เอลนีโญที่มีกำลังอ่อน จะก่อตัวมีกำลังแรงขึ้นในเดือน ก.ย. และต.ค.และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องกินเวลานานจนถึงสิ้นฤดูหนาวในซีกโลกเหนือ แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศเช่นนี้ทั่วโลก
สำหรับประเทศไทยก็คงหาทางรับมือต่อไป โดยจะสลับกันเกิดแต่ละภาคในแต่ละพื้นที่? นอกจากจะประสบกับปัญหาที่น้ำมากผิดปกติในช่วงฤดูฝนแล้ว ยังคงต้องเตรียมใจรับสภาพกับภัยแล้งเมื่อน้ำลด เพราะการบริหารจัดการน้ำที่ปล่อยน้ำทิ้งเกือบหมดเขื่อนนั้นอาจจะเกิดสภาวะ ภัยแล้ง

นายสมิทธ ธรรมสโรช
นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า ปลายนี้ กับปีหน้าลมสุริยะจะรุนแรงขึ้น ตามที่ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกรประจำองค์การนาซ่า ระบุว่าจะเกิดพายุสุริยที่กระทบต่อโลกรุนแรงกว่าทุกปี เป็นเรื่องที่่คนไทยควรหาความรู้รับมือด้วยตนเองดีกว่าพึ่งพามาตรการจาก รัฐบาล ภัยธรรมชาติเกิดรุนแรงขึ้นทุกด้าน?
ธรรมชาติกำลังส่งสัญญาณอะไรถึงมนุษย์ เหตุใดจึงมีความแปรปรวนเช่นนี้ทุกๆปี
อย่างไรก็ตามหากจะมองเป็นเรื่องของธรรมชาติ ก็จะเห็นว่า ธรรมชาติกำลังส่งผลกระทบต่อมนุษย์ ทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมหาศาล เพราะธรรมชาติไม่เคยปราณี และเราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ นายอาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิจัยร่วมในองค์การนาซา กล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกจะละลายมากขึ้น ทำให้ก๊าซมีเทนผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อนมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 21 เท่า
ขณะเดียวกันก็มีนักวิทยาศาสตร์ที่มองว่า การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลกนั้นเป็นเรื่องของธรรมชาติที่มักจะเกิดขึ้นพัน ล้านปีมาแล้ว โลกมีอุณหภูมิร้อนและเย็น สลับกันมาเป็นเวลานาน เป็นการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศตามวัฎจักร เและช่วงเวลาในปัจจุบันเป็นเพียงจุดเล็กๆของช่วงเวลาที่จะต้องรับสภาพ แก้ไขปัญหาเท่านั้นเอง ภาวะโลกร้อนขึ้นจึงเป็๋นเพียงวาทะกรรมที่โหมประโคมข่าวก่อนที่จะถึงวันสิ้น โลก
ที่มา : Mthai News
ราชบัณฑิต เสนอแก้ 176 คำทับศัพท์ แนะเพิ่มวรรณยุกต์เขียนตรงเสียง

นางกาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต และนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กองศิลปกรรมได้จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นประมาณ 300 ชุด เกี่ยวกับการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 เพื่อสอบถามความเห็นจากคณะกรรมการราชบัณฑิต ภาคีสมาชิก และผู้ที่เกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงการเขียนคำที่ยืมจากภาษาอังกฤษใหม่ เนื่องจากพบว่ามีคำศัพท์ที่ยืมมาจากคำภาษาอังกฤษ 176 คำ เขียนผิด และไม่ตรงกับเสียงวรรณยุกต์ของคำนั้นๆ ตามอักขรวิธีไทย และการอ่านออกเสียง ที่ผ่านมามีหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมคำคำนี้ เขียนแบบนี้ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาเรียนภาษาไทย หรือว่าฝึกอ่านภาษาไทย ซึ่งได้เรียนวิธีการเขียนและอ่านอย่างถูกต้องมาแล้ว เมื่อมาเจอคำศัพท์บางคำที่ไม่มีวรรณยุกต์ ก็เกิดความสับสน และอ่านไม่ออก
นางกาญจนากล่าวต่อว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นมาจากขั้นตอนการถอดคำ หรือว่ายืมคำมาจากภาษาอังกฤษ เมื่อแปลมาเป็นภาษาไทย ไม่ได้เติมวรรณยุกต์เสียงเอก โท หรือตรี รวมทั้ง ไม้ไต่คู้ ให้ตรงตามอักขรวิธีไทย อย่างคำว่า ?แคลอรี? การเขียนให้ตรงกับการออกเสียงต้องเป็น ?แคลอรี่? หรือว่าคำว่า ?โควตา? ถ้าจะให้ตรงกับการออกเสียงต้องเป็นคำว่า ?โควต้า? รวมทั้ง ?เรดาร์? ต้องเป็นคำว่า ?เรด้าร์? เพื่อให้ตรงตามเสียงของคำนี้ เป็นต้น
?ที่หลายคนกังวลว่าการเปลี่ยนวิธีการ เขียนคำครั้งนี้ อาจทำให้สับสน หรือว่าเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเขียนศัพท์ต่างๆ นั้น ไม่น่าจะสับสน เพราะถ้าอ่านภาษาไทยก็ไม่น่าสับสน คำศัพท์หลายๆ คำในปัจจุบันมีคนเขียนตามคำศัพท์ที่จะเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ถ้าใครจะเขียนแบบเดิมๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ที่เสนอให้แก้ไข เพื่อให้เขียนถูกต้องตามเสียงของคำนั้นๆ แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าแปลก และไม่ควรแก้ไข? นางกาญจนากล่าว
นางกาญจนากล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้สอบถามความเห็นจากสภาราชบัณฑิต ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเติมวรรณยุกต์ และเปลี่ยนแปลงคำศัพท์ทั้ง 176 คำ เพื่อเขียนให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูผลการสำรวจความคิดเห็นอีกครั้งว่าส่วนใหญ่จะเห็นด้วยทุกคำ หรือเห็นด้วยเฉพาะบางคำ ซึ่งตามกำหนดเวลาแล้ว ภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ทุกคนต้องส่งแบบสอบถามดังกล่าวกลับที่กองศิลปกรรม เพื่อประมวลผลความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่ และมีข้อเสนออะไร ทั้งนี้ การขอปรับแก้คำศัพท์ทั้ง 176 คำนั้น หากเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าควรเปลี่ยน ก็จะนำไปบรรจุในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตย สถาน พ.ศ.2554 ซึ่งกำลังดำเนินการปรับปรุงเพื่อจัดพิมพ์เล่มใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำศัพท์ที่อยู่ในแบบสำรวจ เพื่อขอความเห็นในการเปลี่ยนแปลงการเขียนใหม่ ดังนี้
1.คำที่ใส่เครื่องหมายไม้ไต่คู้เพื่อแสดงสระเสียงสั้น
ได้แก่ ซีเมนต์ เปลี่ยนเป็น ซีเม็นต์, เซต-เซ็ต, เซนติกรัม-เซ็นติกรัม, เซนติเกรด-เซ็นติเกรด, เซนติลิตร-เซ็นติลิตร, ไดเรกตริกซ์-ไดเร็กตริก, เทนนิส-เท็นนิส, นอต-น็อต, นิวตรอน-นิวตร็อน, เนตบอล-เน็ตบอล, เนปจูน-เน็ปจูน, เบนซิน-เบ็นซิน, แบคทีเรีย-แบ็คทีเรีย, มะฮอกกานี-มะฮ็อกกานี, เมตริก-เม็ตตริก, เมตริกตัน- เม็ตริกตัน, แมงกานิน-แม็งกานิน, อิเล็ก ตรอน-อิเล็กตร็อน, เฮกโตกรัม-เฮ็กโตกรัม, เฮกโตลิตร-เฮ็กโตลิตร
2.คำที่เปลี่ยนตัวพยัญชนะเป็นอักษรสูง
ได้แก่ คอร์ด-ขอร์ด, แคโทด-แคโถด, ซัลเฟต-ซัลเฝต, ไทเทรต-ไทเถรต, ไนต์คลับ-ไน้ต์ขลับ, พาร์เซก-พาร์เส็ก, แฟลต-แฝล็ต, สเปกโทร สโกป-สเป็กโทรสโขป, ไอโซโทป-ไอโซโถป
3.คำที่ใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์เอก
ได้แก่ กอริลลา-กอริลล่า, แกโดลิเนียม-แกโดลิ เนี่ยม, แกมมา-แกมม่า, แกลเลียม-แกลเลี่ยม, คูเรียม-คูเรี่ยม, แคดเมียม-แคดเมี่ยม, แคลเซียม-แคลเซี่ยม, แคลอรี-แคลอรี่, โครเมียม-โครเมี่ยม, ซิงโคนา-ซิงโคน่า, ซิลิคอน-ซิลิค่อน, ซีเซียม-ซีเซี่ยม, ซีนอน-ซีน่อน, ซีเรียม-ซีเรี่ยม, โซลา-โซล่า, ดอลลาร์-ดอลล่าร์, เทคโนโลยี-เท็คโนโลยี่, แทนทาลัม-แทนทาลั่ม, ไทเทเนียม-ไทเท เนี่ยม, เนบิวลา-เนบิวล่า, ไนลอน-ไนล่อน, แบเรียม-แบเรี่ยม, ปริซึม-ปริซึ่ม, ปิโตรเลียม-ปิโตรเลี่ยม, แพลทินัม-แพลทินั่ม, ฟังก์ชัน-ฟังก์ชั่น, ฟาทอม-ฟาท่อม, ไมครอน-ไมคร่อน, ยิปซัม-ยิปซั่ม, ยูเรเนียม-ยูเรเนี่ยม, เลเซอร์-เลเซ่อร์, วอลเลย์บอล-วอลเล่ย์บอล, อะลูมิเนียม-อะลูมิเนี่ยม, อีเทอร์-อีเท่อร์, เอเคอร์-เอเค่อร์, แอลฟา-แอลฟ่า, ฮาห์เนียม-ฮาห์เนี่ยม, ฮีเลียม-ฮีเลี่ยม
4.คำที่ใส่ ห นำเพื่อแสดงเสียงวรรณยุกต์เอก
ได้แก่ กะรัต-กะหรัต, แกรนิต-แกรหนิต, คลินิก-คลิหนิก, คาทอลิก-คาทอหลิก, คาร์บอเนต-คาร์บอเหนต, คาร์บอลิก-คาร์บอหลิก, โคออร์ดิเนต-โคออร์ดิเหนต, รูเล็ตต์- รูเหล็ตต์,
5.คำที่เติมเครื่องหมายวรรณยุกต์โท
ได้แก่ กลูโคส-กลูโค้ส, กิโลไซเกิล-กิโลไซเกิ้ล, กิโลเมตร-กิโลเม้ตร, กิโลเฮิรตซ์-กิโลเฮิ้รตซ์, กีตาร์-กีต้าร์, แกรไฟต์-แกรไฟ้ต์, คาร์บอน-คาร์บ้อน, คาร์บูเรเตอร์-คาร์บูเรเต้อร์, เคเบิล-เคเบิ้ล, โควตา-โควต้า, ชอล์ก-ช้อล์ก, ซอส-ซ้อส, โซเดียม-โซเดี้ยม, ไดนาไมต์-ไดนาไม้ต์, แทนเจนต์-แทนเจ้นต์, แทรกเตอร์-แทรกเต้อร์, นิกเกิล-นิกเกิ้ล, ไนต์คลับ-ไน้ต์ขลับ, ไนโตรเจน-ไนโตรเจ้น, บารอมิเตอร์-บารอมิเต้อร์, บีตา-บีต้า, ปาทังกา-ปาทังก้า, ปาร์เกต์-ปาร์เก้ต์, พลาสติก-พล้าสติก, ฟาสซิสต์- ฟ้าสซิสต์, มอเตอร์-มอเต้อร์, เมตร-เม้ตร, ไมกา-ไมก้า, ยีราฟ-ยีร้าฟ, เรดอน-เรด้อน, เรดาร์-เรด้าร์, เรเดียม-เรเดี้ยม, ลิกไนต์- ลิกไน้ต์, แวนดา-แวนด้า, อาร์กอน-อาร์ก้อน, แอนติบอดี-แอนติบอดี้, เฮิรตซ์-เฮิ้รตซ์, ไฮดรา-ไฮดร้า, ไฮโดรเจน-ไฮโดรเจ้น
6.คำที่เติมเครื่องหมายวรรณยุกต์ตรี
ได้แก่ กราฟ-กร๊าฟ, ก๊อซ-ก๊อซ, กอล์ฟ-ก๊อล์ฟ, เกาต์-เก๊าต์, ออกไซด์-อ๊อกไซด์, โคบอลต์- โคบ๊อลต์, ดราฟต์-ดร๊าฟต์, ดัตช์-ดั๊ตช์, ดิสโพรเซียม-ดิ๊สโพรเซี่ยม, เดกซ์โทรส-เด๊ก โทรัส, เต็นท์-เต๊นท์, บาสเกตบอล-บ๊าสเก้ต บอล, บิสมัท-บิ๊สมั้ท, แบงก์-แบ๊งก์, โบต-โบ๊ต, ปลาสเตอร์-ปล๊าสเต้อร์, ปิกนิก-ปิ๊กหนิก, ออกซิเจน-อ๊อกซิเย่น, ออกซิเดชัน-อ๊อก ซิเดชั่น, ออกไซด์-อ๊อกไซด์, อาร์ต-อ๊าร์ต, เอกซเรย์-เอ๊กซเรย์, แอสไพริน-แอ๊สไพริน, แอสฟัลต์-แอ๊สฟัลต์, โอ๊ด-โอ๊ต
และ 7.คำที่มีหลายพยางค์
ได้แก่ คอนเดนเซอร์-ค็อนเด็นเซ่อร์, คอนแวนต์-ค็อนแว็นต์, คอนเสิร์ต-ค็อนเสิร์ต, คอมพิวเตอร์-ค็อมพิ้วเต้อร์, คอมมานโด-ค็อมมานโด, คอมมิวนิสต์-ค็อมมิวนิสต์, คูปอง- คูป็อง, เครดิตฟองซิเอร์-เครดิตฟ็องซิเอร์, แคดเมียม-แค็ดเมี่ยม, แคปซูล-แค็ปซูล, แคลเซียมไซคลาเมต-แคลเซี่ยมไซคลาเมต, ช็อกโกเลต/ ช็อกโกแลต-ช็อกโกแล็ต, เซนติเมตร-เซ็นติเม้ตร, โซเดียมคาร์บอเนต-โซเดี้ยมคาร์บอเหนต, โซเดียมไซคลาเมต-โซเดี้ยมไซคลาเหมต, โซเดียมไฮโดรเจนกลูทาเมต-โซเดี้ยมไฮโดรเจ้นกลูตาเหมต, โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต-โซเดี้ยมไฮโดร เจ้นคาร์บอเหนต, ดีเปรสชัน-ดีเปร๊สชั่น, เทคโนโลยี-เท็คโนโลยี่, แทรกเตอร์-แทร็ก เต้อร์, แบดมินตัน-แบ็ดมินตั้น, แบตเตอรี่-แบ็ตเตอรี่, พลาสมา-พล้าสม่า, โพแทสเซียม-โพแท้สเซี่ยม, เมนทอล-เม็นท่อล, แมงกานีส-แม็งกานี้ส, แมกนีเซียม-แม็กนีเซี่ยม, รีดักชัน-รีดั๊กชั่น, ลอการิทึม-ล็อกการิทึ่ม, สเปกตรัม-สเป๊กตรั้ม, สเปกโทรสโกป-สเป็กโตรสโขป, ออกซิเดชัน-อ๊อกซิเดชั่น, อัลตราไวโอเลต-อัลตร้าไวโอเหล็ต, แอกทิเนียม-แอ๊กทิเนี่ยม, แอนติอิเล็ก ตรอน-แอ็นติอิเล็กตร็อน, เฮกตาร์-เฮ็กต้าร์ และเฮกโตเมตร- เฮ็กโตเม้ตร
ขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
ฮือฮา! พบเห็ดยักษ์คล้ายแมงกระพรุน ที่กาญจนบุรี

รายงานข่าวแจ้งว่า นายระพีพล อังสุโชติ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 อยู่บ้านเลขที่ 9/8 หมู่ 8 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่าพบเห็ดตีนแรดมีดอกขนาดใหญ่วัดเส้นรอบวงกลมได้ 166 เซนติเมตร ขั้นซ้อนกันเป็นชั้นๆ จำนวนมาก มีลักษณะคล้ายแมงกะพรุน ดอกใหญ่สุด เส้นผ่าศูนย์กลางวัดได้ 54 เซนติเมตร มีประมาณ 19 ถึง 20 ดอก
นายพีระพล อังสุโชติ เล่าว่า เราเคยพบเห็ดบริเวณนี้มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ซึ่งจะขึ้นปีละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ทั้งนี้บ้านของตนเป็นแคมป์ขี่ม้าด้านหลังเป็นพื้นที่สวนป่า มีดินอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาบริเวณนี้เคยพบเห็ดหลินจือที่มีราคาแพงมาแล้ว สำหรับเห็ดที่พบทางภาคเหนือเรียกว่าเห็ดจั่น คนทั่วไปเรียกเห็ดแรด ส่วนชาวกาญจนบุรีจะเรียกว่าเห็ดตับเต่าขาว ไม่แน่ใจว่าทางได้หรือไม่ ซึ่งเมื่อทราบข่าวชาวบ้านก็เดินทางมาขอหวย
แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญแนะนำตนว่าหากอยากทราบว่าเห็นชนิดนี้รับประทานได้หรือไม่ ให้นำไปต้มกับข้าวสาร หากข้าวสารกลายเป็นสีดำแสดงว่าเห็ดมีพิษ ไม่สามารถรับประทานได้ ซึ่งตนจะลองนำเห็ดที่พบไปลองต้มดู
ที่มา : Mthai News
ตื่น! ฝูงปูแสมพาเหรดข้ามถนนที่ภูเก็ต คาดเป็นสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ

ขณะที่บางส่วนเชื่อเป็นการหาที่วางไข่แห่งใหม่ของปูแสม จี้เจ้าหน้าที่ช่วยหาคำตอบ
รายงานข่าวแจ้งว่าวานนี้ (30ก.ย.) ที่บริเวณริมป่าชายเลน? ติดถนนศักดิเดชน์ ซอย 1 ตรงข้ามที่ทำการสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน ที่ 23 ภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ได้เกิดเหตุประหลาดขึ้น เมื่อมีฝูงปูแสมนับพันตัว พาเหรดเดินข้ามถนน ไปยังป่าชายเลนฝั่งตรงข้าม
ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวสร้างความแตกตื่นให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ต่างพากันจอดรถหยุดดู และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง นานา บ้างว่าเป็นการเดินทางไปวางไข่ยังที่แห่งใหม่ของปูแสม เนื่องจากพื้นที่ที่เคยอยู่ร้อนจัด จนไม่สามารถที่จะวางไข่ได้
รวมไปถึงวันเวลาดังกล่าวตรงกับวันขึ้น 15ค่ำ ซึ่งทำให้น้ำขึ้นสูง ปูจึงหนีน้ำขึ้นบนต้นไม้บริเวณป่าชายเลน และเมื่อน้ำลงปูจึงลงจากต้นไม้ และกลับไปอยู่ในรูเหมือนเดิม แต่ก็มีบางส่วนที่มองว่าเป็นสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ เพราะปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นหรือพบเห็นได้น้อยมาก
ภาพจากข่าวสด
ที่มา : Mthai News
ครูลิลลี่ไม่เห็นด้วย แก้ 176 คำทับศัพท์ ชี้ ทำให้เด็กเกิดความสับสน

ผู้ที่เห็นด้วยมองว่าการเปลี่ยนแปลงอาจช่วยให้เด็กอ่านศัพท์ได้ง่ายขึ้น
เว็บไซต์มติชนรายงานว่า? จากกรณีที่กองศิลปกรรม?? ได้จัดทำแบบสำรวจ ความคิดเห็นประมาณ 300 ชุด?? เกี่ยวกับการเขียนคำยืมจาก? ภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ? พ.ศ.2542 เพื่อสอบถามความเห็นจากคณะกรรมการราชบัณฑิต ภาคีสมาชิก และผู้ที่เกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงการเขียนคำที่ยืมจากภาษาอังกฤษใหม่ เนื่องจากพบว่ามีคำศัพท์ที่ยืมมาจากคำภาษาอังกฤษ 176 คำ เขียนผิด และไม่ตรงกับเสียงวรรณยุกต์ของคำนั้นๆ ตามอักขรวิธีไทย และการอ่านออกเสียง ได้มีกระแสสะท้อนความคิดเห็นจากนักวิชาการและครูผู้สอน ทั้งจากฝ่าย ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งเกรงว่าจะทำให้เกิดความสับสนมากขึ้นกว่าเดิม
นายกิจมาโนจญ์ โรจนทรัพย์ หรือครูลิลลี่ ครูวิชาภาษาไทยสถาบันกวดวิชาชื่อดัง ได้แสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพราะอาจทำให้เด็กเกิดความสับสนมากยิ่งขึ้น แม้ว่าคำยืมจากภาษาอังกฤษในปัจจุบันจะยังออกเสียงไม่ตรงวรรณยุกต์แต่เห็นว่า ไม่จำเป็น เพราะทุกคนทราบดีว่าคำเหล่านั้นต้องออกเสียงยังไง
ในฐานะเป็นครูภาษาไทย คิดว่าวิธีการดีที่สุดควรจะสอนให้เด็กอ่าน ออกเสียงให้ถูกต้องว่า ถ้าอ่านออกเสียงแบบนี้เป็นการออกเสียงตามแบบภาษาอังกฤษ และ แบบนี้คือการออกเสียงแบบภาษาไทย เพื่อให้เด็กมีความเข้าใจถูกต้อง
ส่วนกรณีกังวลว่าชาวต่างชาติที่มาเรียนภาษาไทยแล้วจะสับสนว่าศัพท์บางตัว ไม่มีวรรณยุกต์นั้น ครูลิลลี่แสดงความเห็นว่า ควรจะมองคนในชาติเป็นหลักมากกว่าจะไปห่วงชาวต่างชาติ เพราะเวลาคนไทยไปเรียนภาษาต่างประเทศก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับเจ้าของภาษาเช่นกัน
เช่นเดียวกับนายบุญส่ง อุษณรัสมี อนุกรรมการประเมินผลงานครูวิชาภาษาไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และอดีตครูเชี่ยวชาญภาษาไทย โรงเรียนสตรีวิทยา 2 กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เพราะรูปแบบการเขียนภาษาอังกฤษไม่เหมือนกับภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาที่มีวรรณยุกต์ แต่ภาษาอังกฤษไม่มี ดังนั้นไม่ควรนำการออกเสียงของไทยไปกำหนดรูปแบบการเขียนทับศัพท์ในภาษา อังกฤษ ควรจะคงรูปแบบการเขียนเดิมเอาไว้
ขณะที่ผู้ที่เห็นด้วยก็มีการแสดงความคิด เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงอาจช่วยให้เด็กอ่านศัพท์ได้ง่ายขึ้นและคิดว่าเด็กจะ ไม่เกิดความสับสน นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า หากราชบัณฑิตมีการเปลี่ยนแปลงคำยืมมาจากในภาษาอังกฤษ เพื่อให้อ่านออกเสียงง่ายขึ้นคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเด็ก ทั้งในการเรียนวิชาภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
นางสาววีณา อัครธรรม ผู้อำนวยการ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ.กล่าวว่า ในมิติของ สพฐ.ซึ่งเป็นส่วนราชการ หากราชบัณฑิตเปลี่ยนแปลงคำศัพท์อะไรก็คงต้องใช้ตาม เชื่อว่าคงไม่เกิดความสับสน หากมีการชี้แจงให้รอบด้าน และเท่าที่ทราบเป็นการเปลี่ยนแปลงการเขียนคำที่นำมาจากต่างประเทศ ให้ชัดเจนขึ้นระหว่างภาษาอ่านกับภาษาเขียน ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยเป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เห็นด้วย เป็นเรื่องที่น่าทำ เพราะจะทำให้ภาษามี วิวัฒนาการร่วมสมัยมากขึ้น และที่สำคัญทำให้ช่องว่างเรื่องภาษาลดลง เป็นประโยชน์กับนักเรียนในการสะกดคำให้ตรงตัวมากขึ้น ซึ่งทางราชบัณฑิตฯเองจะต้องทำประชา สัมพันธ์เกี่ยวกับศัพท์ใหม่ผ่านช่องทางต่าง ๆ หรืออาจเชิญนักเรียนมาร่วมพูดคุยรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เด็กๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วม
ขอบคุณข้อมูลจาก?มติชนออนไลน์
เครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น บี้ช่อง 3 ปลดสรยุทธ

เครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น บี้ช่อง3 ปลดสรยุทธ หลังป.ป.ช.ชี้มูลยักยอกเงิน
สืบเนื่องจากกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ฐานยักยอกเงินโฆษณาที่ได้รับเกินกว่าสัญญาที่บริษัทไร่ส้มทำไว้กับ อสมท ทำให้ อสมท ได้รับความเสียหายถึง 138,790,000 บาท
โดยในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ทางภาคีเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่น ร่วมกับสถาบันอิศราจะจัดเสวนาเรื่อง ?กรณีไร่ส้ม?บทพิสูจน์ความเข้มแข็งของสังคมในการต่อสู้คอร์รัปชั่น? ที่ห้องประชุมอิศรา อมันตกุล ชั้น3 อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เวลา 10.00 -12.00 น.
นายมานะ นิมิตมงคล ผู้อำนวยการภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ระบุว่ากรณีดังกล่าวทำให้สังคมตั้งคำถามว่า จรรยาบรรณสื่อมวลชนนั้น หากผู้ทำหน้าที่สื่อได้กลายเป็นนักธุรกิจที่มุ่งแสวงหาแต่กำไร และหากได้ทำการคดโกงแล้ว จะเชื่อถือในความเที่ยงตรงของสื่อได้อย่างไร
?ผู้ถูกดำเนินคดีคอร์รัปชั่นควร ถูกทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 สั่งระงับการทำหน้าที่ และบรรดาธุรกิจควรหยุดการสนับสนุนรายการนี้หรือไม่ การที่ถูกจับได้ว่าโกงเงินไปแล้วเอามาคืน ถือว่ารัฐไม่เสียหายจริงหรือ แล้วต่อไปเราจะสอนเรื่องคุณธรรมจริยธรรมให้เด็กๆกันอย่างไร และที่สำคัญคอร์รัปชั่นควรเป็นปัญหาที่ประชาชน นักธุรกิจและรัฐ ต้องร่วมมือกันต่อต้านทุกรูปแบบและร่วมกันปฎิเสธ ไม่คบคนโกงใช่หรือไม่? นายมานะ กล่าว
ที่มา : Mthai News
สาวยูเครนคลั่งอนิเมะ แปลงโฉมตัวเองให้เหมือนตัวการ์ตูน

ทึ่ง!! สาวยูเครนคลั่งอนิเมะ แปลงโฉมตัวเองให้เหมือนตัวการ์ตูน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน วัยรุ่นสาวชาวยูเครนวัย 19 ปี ชื่นชอบโลกอนิเมะ แปลงโฉมตัวเองเป็นตัวการ์ตูนญี่ปุ่น ญี่ปุ่นที่เธอชื่นชอบ พร้อมกับดูแลรูปร่างให้เหมือนกับอนิเมะ โดยมีชื่อในภาษาญี่ปุ่นด้วยว่า ฟุกกะคูมิ (Fukkacumi)
อนาตาซีอา ชปาจินา สาวชาวยูเครน วัย 19 ปี สูงราว 157 เซ็นติเมตร ลดน้ำหนักเหลือเพียง 38 กิโลกรัม เพื่อให้เอวบางร่างน้อยเหมือนตัวการ์ตูนญี่ปุ่น และแต่งตาให้กลมโต โดยใช้เวลา 30 นาที สำหรับการวาดดวงตาทีละข้าง รรวมแล้วการแต่งหน้าก็ต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง จนได้ใบหน้าที่ราวกับหลุดออกมาจากจินตนาการในโลกการ์ตูน
ทั้งนี้ อนาตาซีอา มีแฟนเพจเฟซบุ๊กคอยติดตามเรื่องราวของเธอกว่า 10,000 ราย และหากใครที่ต้องการแปลงโฉมได้อย่างเธอก็สามารถติดตามได้ที่ในเว็บไซต์ยูทูป
ที่มา : Mthai News
รัฐบาลเดินหน้าต่อ โครงการถมทะเล สร้างเมืองใหม่

ขณะที่กรมที่ดิน งัดโมเดลศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะเป็นต้นแบบ เล็งเริ่มต้นหัวหิน อ้อมอ่าวไทยไปพัทยา
จากกรณีที่รัฐบาลได้ประกาศผ่านรัฐสภา ให้โครงการถมทะเล สร้างเมืองใหม่ เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำในสมัยรัฐบาลนี้ โดยทุ่มงบประมาณมูลค่ากว่า? 1.8 ล้านล้านบาทในการดำเนินการ เพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจ ที่อยู่อาศัย รีสอร์ต มารีน่า และรถไฟความเร็วสูง
รวมไปถึงเป็นแนวกันน้ำท่วมและ แก้ไขปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อลดการกัดเซาะให้ลดน้อยลง ทั้งนี้แม้โครงการจะถูกคัดค้านอย่างหนัก แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลเพื่อไทย ก็ยังพยายามพลักดันให้นโยบายดังกล่าวเดินหน้าอยู่นั้น
นายบุญเชิด คิดเห็น อธิบดีกรมที่ดิน ได้ออกมากล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการว่า ขณะนี้ขั้นตอนโครงการอยู่ระหว่างการยกร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่เกี่ยวกับ เรื่องดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นร่างพระราชบัญญัติได้ผ่านการพิจารณาของคณะทำงานยกร่างฯ แล้ว เตรียมจะเสนอกระทรวงมหาดไทย และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเร็วๆ นี้
โดยการยกร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่นั้น ได้มีการเสนอให้จัดตั้งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle : SPV) ใช้ชื่อว่า บริษัท บริหารจัดการและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย จำกัด เป็นผู้ดำเนินงานในการจัดการโครงการ ให้มีรูปแบบเหมือนบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ที่คอยผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจและการบริหารจัดการที่ดินของรัฐ ทั้งแปรสภาพแหล่งน้ำ และถมทะเล
ส่วนแนวทางในการดำเนินการนั้น ให้นำการก่อสร้างศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติถนนแจ้งวัฒนะเป็นต้นแบบ เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินการและการบริหารจัดการทางด้านการเงินและการ ระดมทุน โดยจะแบ่งการพัฒนาเป็นเฟส ๆ ตามความเหมาะสม
สำหรับพื้นที่ที่จะถมทะเลนั้น มีหลายตัวเลือก อาทิ สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี และชลบุรี เบื้องต้นได้คัดเลือกพื้นที่เป็น 2 แนวทางคือ
1.ก่อสร้างเขื่อนกั้นน้ำบริเวณริมฝั่งทะเล จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้วอ้อมทะเลอ่าวไทยไปเมืองพัทยา
2.ก่อสร้างลึกเข้าไปในทะเล ห่างจากชายฝั่งทะเล 15-16 กิโลเมตร ตามแนวสันทราย จากชายฝั่งทะเลในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ไปถึงฝั่งทะเลด้าน จ.ชลบุรี รูปแบบจะเป็นถนนขนาด 4-6 เลน ตลอดทางจะมีประตูน้ำขนาดใหญ่สำหรับระบายน้ำทะเลเข้าออก และจะมีการถมทะเลพัฒนาเชิงพาณิชย์
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดำเนินการโครงการก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักวิชาการ และให้ความสำคัญกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและคุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ
